
Meet the owner


CHANATHIP ORSUWAN
OWNER AND MARKETING DIRECTOR
คุณคม ชนาธิป ออสุวรรณ ผู้มีประสบการณ์ และ เริ่มต้นธุรกิจบ้านพักพูลวิลล่ามากว่า 10 ปี เจ้าของ SweetStay Hua Hin Agency ชั้นนำ ที่เป็นตัวกลางจัดหาบ้านพักพูลวิลล่าให้ลูกค้าทุกระดับ ทั้งในไทยและต่างชาติ คุณคมจึงมีความเข้าใจในตลาด และ ความต้องการของลูกค้า เป็นอย่างดี พร้อมที่จะผลักดัน นำทีมพัฒนาโครงการ WABI SABI ให้เป็น วิลล่า ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง
ที่มาของโครงการ WABI SABI Onsen Villa Hua Hin
“ในช่วงเวลา 10 ปีมานี้ ผมเห็นการเติบโตและการเปลี่ยนแปลง ของธุรกิจบ้านพักพูลวิลล่ามาตลอดมีบ้านอยู่ในความดูแลของเราหลายร้อยหลัง … ทำให้ผมรู้ว่าบ้านแบบไหนที่เป็นที่ต้องการ ของลูกค้ามากที่สุด บ้านแบบไหนที่ตอบโจทย์ลูกค้าและไม่ตกกระแสของตลาดบ้านพักพูลวิลล่า ผมและทีมมั่นใจว่าลูกค้าที่ซื้อบ้านเราไปจะได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจ ได้รับอัตราค่าเช่าที่สูง ด้วยพื้นที่ใช้สอยของบ้านและดีไซน์ที่ออกแบบมาโดยคำนึงถึงลูกค้าผู้เป็นเจ้าของบ้าน รวมถึงลูกค้าที่เข้าพักเป็นหลัก ผมและทีมใช้ประสบการณ์ทั้งหมดที่มี สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการพูลวิลล่า คัดสรรแต่สิ่งที่ดีและเหมาะสมที่สุดให้กับโครงการของเรา”

THANASINT ORSUWAN
OWNER AND HEAD OF ARCHITECT TEAM
คุณหนุ่ม ธนาสิน ออสุวรรณ สถาปนิกที่รู้จักและคุ้นเคยกับธุรกิจพูลวิลล่าเป็นอย่างดี เข้าใจกลุ่มลูกค้า และสามารถจัดการกับ function การใช้งานของบ้านพักพูลวิลล่าได้อย่างลงตัว พร้อมกับดีไซน์ที่ถูกออกแบบมาภายใต้ concept เรียบง่าย สวยงาม เหนือกาลเวลา “ WABI SABI ”
แนวคิดการออกแบบโครงการ WABI SABI Onsen Villa Hua Hin
“ ที่ผ่านมาผมมีความสนใจในสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นมาตลอด จึงเข้าใจในการออกแบบที่เน้นการอยู่อาศัย ที่เรียบง่ายสอดคล้องกับธรรมชาติ อย่างกลมกลืนในแต่ละช่วงเวลา สำหรับเรา “บ้าน” คือสถานที่ที่ทุกคนในครอบครัวใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ใช้เวลาร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์ต่างๆร่วมกัน แต่สำหรับ “พูลวิลล่า” ต้องเป็นอะไรที่พิเศษกว่านั้นมากเพราะลูกค้าของเราเดินทาง หนีเมือง หนีความ
วุ่นวาย เพื่อมาพักผ่อน เพื่อเติมพลังให้กันและกันในโอกาสพิเศษ การออกแบบจึงอยากให้บ้านหลังนี้สามารถทำให้ลูกค้า connect กันได้มากขึ้น
ลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่แต่ละส่วนทั้งห้องนั่งเล่น ห้องทานอาหาร สวน รวมถึงสระว่ายน้ำ จะไม่ถูกแยกขาดออกจากกันมากจนเกินไป ให้การมาพักผ่อนที่บ้านของเราส่งเสริมให้เกิด Quality Time ให้กับลูกค้ามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าบ้านยังไม่ดีที่สุดในสายตาเรา เราก็จะยังไม่ปล่อยแบบออกมาให้ลูกค้าการออกแบบสำหรับเราไม่มีคำว่า dead line ผู้ออกแบบต้องพัฒนาแบบจนกว่าบ้านจะถึงจุดที่ลงตัวที่สุดเท่านั้น จุดที่แบบลงตัวที่สุดคือจุดเดียวที่เราจะปล่อยมือออกมาจากงาน ”